ครั้งหนึ่ง ในวันฝนตก (เชียงใหม่ 2008)



ตั้งแต่เมื่อเช้า ฟากฟ้าได้เทฝนลงมาไม่ขาดสาย แปลกใจอยู่นิดๆ ที่ละอองฝน ได้พาความเหงามาด้วย และแล้ว บางเรื่องราวที่ถูกลืมเลือน ก็ถูกเรียกย้อนกลับมาในความคิด ด้วยบทเพลงที่เปิดอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์

สายของวันที่ฟ้าครึ้มไม่ต่างกันเลย แตกต่างกันตรงที่เวลา และบุคคลที่เปลี่ยนแปลงไป วันนั้น ความเครียดจากการสอบ ที่ทำคะแนนไม่ค่อยดีนัก กลับทำให้เกิดความสุขเล็กๆ จากทริปเล็กๆ ซึ่งคิดขึ้นได้กะทันหัน

หลังจากอยู่ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มาหนึ่งปี ยังไม่รู้เลยว่าหน้าตาของอ่างเกษตรเป็นยังไง จึงพกกล้องถ่ายรูป หามุมสวยๆเก๊กท่าถ่ายกันยกใหญ่ ลมเย็นๆพัดมา กับความอบอุ่นของมิตรภาพ ผมกับเพื่อนอีกสองคน นั่งปล่อยอารมณ์ไปเรื่อยๆ ให้ความล้าจากห้องสอบหายไป

ถ่ายรูปกันไปสักพัก ท้องก็เริ่มหิว ด้วยเงินที่มีเหลืออยู่ปลายเดือนจำนวนน้อยนิด เราจึงพากันไปทานร้านอาหารอีสานเล็กๆ แถวสวนสุขภาพหน้ามอชอ อาจจะไม่ค่อยหรูหราเท่าไหร่ แต่ก็พออร่อย อันที่จริง ก็นานแล้วที่ไม่ได้ทานอาหารแซ่บๆอย่างนี้ ปกติจะทานแต่แถวโรงอาหารในมหาวิทยาลัย ตอนที่นั่งทานกันอยู่ ก็มีสุนัขตัวหนึ่ง เข้ามาขอส่วนแบ่งด้วย ไอ้เราก็อดสงสารไม่ได้เลยให้มันทานเนื้อไปชิ้นนึง มันกลับนั่งจุ้มปุ๊กอยู่ใต้โต๊ะ รอคำต่อไปเสียอย่างนั้น

หลังจากที่ทานกันอิ่มหนำ จนเผ็ดร้อนไปทั้งปาก ก็แวะกันไปทานไอศกรีมนมสด ที่ปศุสัตว์เชียงใหม่ ตรงข้ามสวนสัตว์ อาจไม่เหมือนร้านหรูๆทั่วไป แต่รสชาติก็ยอดเยี่ยม ทั้งไอศกรีม ทั้งโยเกิร์ต มีกลิ่นหอมของนมล้วนๆ แถมเนื้อไอศกรีมยังนุ่มๆอีกด้วย เป็นความพิเศษที่อยู่ในร้านเล็กๆที่คาดไม่ถึง อีกทั้งยังไม่แพงมากนัก อันที่จริง ร้านวันนั้นก็มีคนมานั่งทานไอศกรีมกับโยเกิร์ตอยู่เยอะเหมือนกัน แต่ยังคงบรรยากาศเงียบๆของเชิงดอยไว้ เพื่อนมิ้นท์ของเราแอบนั่งส่องผู้ชายโต๊ะข้างๆ ส่วนเราก็ทานเพลินจนเผลอเลียฝาไอศกรีมโดยไม่รู้ตัว ทำเอาคนทั้งร้านมองเป็นตาเดียว เราสามคนเลยพากันหัวเราะกลบเกลื่อน แกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้ คิดแล้วก็อายเหมือนกันนะเนี่ย

อันที่จริง มีสถานที่ที่จะไปต่อมากกว่านี้ แต่ด้วยค่าน้ำมันรถและเวลาอันจำกัด เราจึงไปนั่งพักท้องกันที่น้ำตกห้วยแก้ว เป็นที่สุดท้ายก่อนจะกลับหอกัน เป็นอันจบทริปเล็กๆที่แสนอบอุ่นลง สรุปว่าได้ผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง บวกอิ่มกันท้องแตก แล้วสายฝนก็พรำลงมาเมื่อเราจอดรถตรงใต้ถุนหอแล้ว

น่าแปลกที่เพลงๆหนึ่งทำให้เราคิดถึงอะไรขึ้นมาได้หลายๆอย่าง มันคงไม่ได้เกี่ยวกับเนื้อหาของเพลงสักเท่าไหร่ แต่มันคงจะเป็นเพลงแห่งช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดช่วงหนึ่งก็ได้ และเพลงๆนั้นก็ทำให้ได้รู้ว่า ในสายฝน มักมีความสุขซ่อนอยู่เสมอ





ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เชียงตุงและเมืองลา 2014

บ่อแก้วในวันฝนพรำ

My Family to Northeast Thailand in 1999