รู้จักกับ Blue Zone: ภูมิภาคที่มีประชากรอายุยืนยาว

ใครๆต่างก็อยากจะมีอายุที่ยืนยาว ด้วยสุขภาพที่แข็งแรง นักวิทยาศาสตร์ รวมถึงนักวิจัยและแพทย์ทั่วโลก ต่างค้นหาวิธีการมากมาย เพื่อที่จะรักษาสุขภาพร่างกายของมนุษย์ ซึ่งจากการค้นหาเคล็ดลับแห่งความอายุยืนนี้ นำมาซึ่งการค้นพบการวิจัยสำคัญ ที่ถูกเผยแพร่โดย Dan Buettner นักสำรวจของ National Geographic เมื่อปี ค.ศ. 2004 โดยเขากับทีมงานของนักวิทยาศาสตร์ และนักประชากรศาสตร์ ได้เดินทางไปทั่วโลก เพื่อเสาะหาชุมชน ที่ผู้คนไม่เพียงแต่มีชีวิตอยู่ยืนยาวเท่านั้น แต่ยังใช้ชีวิตยืนยาวได้อย่างมีคุณภาพอีกด้วย หลังจากทำการสำรวจ และวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมจากการเดินทาง ซึ่งประกอบไปด้วยข้อมูลประชากร และบทสัมภาษณ์ของผู้คนท้องถิ่น พวกเขาก็ได้ชุมชน 5 แห่ง ที่โดดเด่นในหลักฐานด้านการใช้ชีวิตอยู่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพ ซึ่งให้คำจำกัดความด้วยคำว่า Blue Zone เพราะผู้วิจัยได้ทำการใช้ปากกาสีน้ำเงิน ในการทำเครื่องหมายแผนที่หมู่บ้านที่มีคนอายุเกินร้อยปี 

จากการวิเคราะห์เบื้องต้น การที่ประชากรใน Blue Zone มีอายุยืนมากกว่าพื้นที่อื่นๆของโลก อย่างเห็นได้ชัด หลักๆเป็นผลมาจากการใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม การออกกำลังกายเป็นประจำ แม้อายุเกิน 80 ปี การให้การสนับสนุนแก่ครอบครัว และชุมชนสำหรับผู้สูงอายุ รวมไปถึงการบริโภคอาหารในท้องถิ่น ซึ่งมีรายละเอียดที่น่าสนใจศึกษา ดังที่จะกล่าวถึงในแต่ละพื้นที่ดังนี้

1. อิคาเรีย ประเทศกรีซ 

อยู่ไม่ไกลเพียง 35 ไมล์จากฝั่งประเทศตุรกี อิคาเรียเป็นเกาะอันสวยงามของประเทศกรีซ ที่ห้อมล้อมไปด้วยทะเลสีคราม ของบริเวณน่านน้ำทะเลอีเจียน ภูมิประเทศของเกาะเต็มไปด้วยหิน จากที่ตั้งของเกาะ ทำให้เป็นที่อพยพของผู้คนมากมายจากชายฝั่ง จากการรุกรานของชาวเปอร์เซีย โรมัน และเติร์ก ในสงครามเมื่อครั้งโบราณ ก่อให้เกิดชุมชนที่มีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ อุดมไปด้วยประเพณี ที่มีค่านิยมของครอบครัว ซึ่งส่งผลต่อการมีอายุยืนยาว 

เกาะแห่งนี้ได้ชื่อว่า เป็นเกาะที่มีอากาศและท้องน้ำที่บริสุทธิ์มากๆ ชาวอิคาเรียนเกือบทั้งหมดปราศจากภาวะสมองเสื่อม และโรคเรื้อรังบางชนิดที่แพร่ระบาดในชาวอเมริกัน พวกเขาชอบไวน์แดงรสเข้มข้น เกมโดมิโนยามดึก และชีวิตที่ผ่อนคลายโดยไม่สนใจนาฬิกา ผู้คนไม่เคร่งเครียดต่อตารางเวลา ตื่นสาย และนอนกลางวันบ่อย ผู้คนที่นี่มีสถิติเป็นโรคหัวใจต่ำกว่าถึง 50% และมีสถิติป่วยเป็นโรคมะเร็งต่ำกว่าถิ่นอื่นถึง 20% พวกเขาใช้ชีวิตอย่างกระปรี้กระเปร่า โดยการออกแรงอยู่เสมอ เช่นในการทำสวน หรือ เดินไปบ้านเพื่อนบ้าน รับประทานอาหารตามวิถีดั้งเดิมของแถบเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งประกอบไปด้วย ผักและผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด ถั่ว มันฝรั่ง และน้ำมันมะกอก ที่มีคอเลสเตอรอลต่ำ ทั้งยังประกอบด้วยไขมันไม่อิ่มตัว 

ชาวอิคาเรียนยังชอบดื่มชาสมุนไพร กับครอบครัวและเพื่อนฝูง ชาเหล่านี้อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ชงจากโรสแมรี่ และออริกาโน่ป่า มีฤทธิ์เป็นยาขับปัสสาวะ สามารถควบคุมความดันโลหิตได้ ด้วยการกำจัดโซเดียม และน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย พวกเขามีตารางอดอาหารในแต่ละปี ตามความเชื่อทางศาสนา ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า มีส่วนช่วยชะลอกระบวนการแก่ชรา พวกเขาเลือกดื่มนมแพะมากกว่านมวัว ซึ่งให้โพแทสเซียม และฮอร์โมนทริปโตเฟน ที่ช่วยคลายความเครียด นอกจากนี้ยังไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ สำหรับผู้ที่แพ้แลคโตสในนม ผู้คนบนเกาะมักจะทานน้ำผึ้ง วันละหนึ่งช้อน ในทุกๆเช้า เพราะเชื่อว่าเป็นยาขนานดีอย่างหนึ่ง

2. โลมา ลินดา รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา 

ตั้งอยู่ห่างจากเมืองลอสแองเจอลิสเพียง 60 ไมล์ คือชุมชนลัทธิศาสนาที่ชื่อว่า "Seventh-Day Adventist" ที่ผู้คนมีศาสนาเป็นที่พึ่งทางใจ และยึดหลักการรับประทานอาหารมังสวิรัติ ไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ 

ในสัปดาห์หนึ่ง จะมีวันพักผ่อน 24 ชั่วโมง เป็นการพักผ่อนจากความยากลำบากในชีวิตประจำวัน ให้ความสำคัญไปกับครอบครัว พระเจ้า ความสนิทสนมกัน และธรรมชาติ ช่วยคลายความเครียด เสริมสร้างเครือข่ายทางสังคม และการออกกำลังกายโดยไม่หักโหมจนเกินไป พวกเขาทานเนื้อสัตว์เท่าที่จำเป็น ทานอาหารเช้าเป็นหลัก ทานเสริมในมื้อเที่ยง และทานแต่เนิ่นๆแต่น้อยลงในมื้อเย็น ของว่างของพวกเขามักจะเป็นประเภทถั่วและธัญพืช ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพและอายุขัย ชุมชนเปิดโอกาสให้สมาชิกได้เป็นอาสาสมัคร ทำให้มีความกระตือรือร้น มีจุดมุ่งหมาย ขจัดภาวะซึมเศร้า โดยเน้นไปที่การช่วยเหลือผู้อื่น ผู้คนในชุมชนยังยึดมั่นในความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น และคอยสนับสนุน ช่วยเหลือกันและกันอีกด้วย 

3. ซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี

เป็นเกาะที่อยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ของอิตาลี ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เกาะนี้มีประวัติความเป็นมาอันเก่าแก่ ที่แห่งนี้เป็นพื้นที่แรกที่ถูกระบุให้เป็นแถบ Blue Zone ในปี 2004 หลักฐานที่บ่งชี้ถึงความอายุยืนของประชากรบนเกาะนั้น ส่วนหนึ่งพบจาก ลักษณะทางพันธุกรรมที่หาได้ยาก เนื่องจากการแยกตัวทางภูมิศาสตร์ของเกาะ ทำให้ยีนของผู้คนบนเกาะส่วนใหญ่ไม่ถูกเจือปน แต่เหตุผลนอกจากนี้ ผู้คนที่นี่ยังคงดำเนินวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม และมีสุขภาพดี พวกเขารับประทานอาหารไร้มัน ที่มีพืชเป็นหลัก และนิยมรับประทานชีสเพโคริโน ที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ชาวซาร์ดิเนียชอบดื่มไวน์แดงที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และช่วยขัดหลอดเลือดมากกว่าไวน์อื่นๆ สองหรือสามเท่าในระดับที่พอดี อีกทั้งยังดื่มนมแพะ ซึ่งช่วยป้องกันโรคหัวใจและอัลไซเมอร์ 

ผู้คนบนเกาะยังหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ผ่านการทำงานในชีวิตประจำวัน อย่างเช่นการเลี้ยงแกะ ทำไร่ ทำสวน โดยไม่ต้องออกแรงหักโหม เหมือนการวิ่งมาราธอน ซึ่งเป็นผลดีต่อกล้ามเนื้อและกระดูก พวกเขาดำรงชีวิตอยู่ในความพอดี ไม่ทุกข์ ไม่สุขจนมากเกินไป และมักมีเรื่องขำขันให้เรียกเสียงหัวเราะในระหว่างวัน ชาวซาร์ดิเนียให้ความสำคัญกับทุกคนในครอบครัว ผู้สูงอายุสามารถให้ความช่วยเหลือเด็กๆ เพื่อผลักดันพวกเขา ให้ประสบความสำเร็จในชีวิต เป็นเหตุผลที่ทำให้เด็กมีสุขภาพที่ดีขึ้น ปรับตัวดีขึ้น และมีอายุยืนยาวขึ้น และทำให้อายุขัยประชากรโดยรวมเพิ่มขึ้น

4. โอกินาวะ ประเทศญี่ปุ่น

อาณาจักรหมู่เกาะทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ที่ได้ชื่อว่า ดินแดนแห่งความเป็นอมตะ สถานที่ที่ผู้คนมีชีวิตอยู่เกิน 100 ปี มากที่สุดในโลก ชาวโอกินาวะมีสุขภาพที่แข็งแรง น้อยคนนักที่จะป่วยเป็นโรคร้ายแรงเช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ หรือภาวะสมองเสื่อม ผู้คนบนเกาะมีความสัมพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้น มีเครือข่ายทางสังคมที่เข้มแข็ง ซึ่งจะคอยสนับสนุนมิตรภาพ และผู้คนไปจนถึงวัยแก่ชรา พวกเขายังมีแนวคิดเกี่ยวกับจุดมุ่งหมายในการใช้ชีวิต ที่เรียกว่า "อิคิไก" อีกด้วย

อาหารโอกินาวะ ประกอบด้วยผักเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งหวาน หรือเต้าหู้ ที่มีคุณค่าทางอาหารสูง และพลังงานต่ำ ชาวโอกินาวะมักจะทานอาหารแต่พอดี พวกเขาถือคติที่ว่า ทานให้อิ่มเพียง 80% ก็พอ ผักที่ขึ้นชื่อของเกาะ คือ มะระ มีสารต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย

ผู้คนบนเกาะโอกินาวะที่มีอายุมากกว่า 100 ปี เกือบทุกคนมักจะเคยปลูกสวนผักมาก่อน ซึ่งเป็นการออกกำลังกายในแต่ละวันของพวกเขา นอกจากนี้สวนผักยังเป็นแหล่งของผักสดที่หาได้ไม่บ่อยนัก พวกเขายังทำสวนสมุนไพรและยา อย่างเช่น ขิง และขมิ้น เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ชาวโอกินาวะใช้ป้องกันตนเองจากความเจ็บป่วยได้

ชาวโอกินาวะนิยมทานอาหารที่ทำมาจากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้ และซุปมิโซะ ซึ่งช่วยป้องกันโรคหัวใจและมะเร็งเต้านม อาหารจากถั่วเหลืองหมักมีส่วนช่วยให้ระบบนิเวศน์ของลำไส้แข็งแรง และให้ประโยชน์ทางโภชนาการที่ดีอีกด้วย

พวกเขามักจะใช้เวลาทำกิจกรรมต่างๆนอกบ้าน ซึ่งทำให้ร่างกายได้รับวิตามินดีจากแสงแดดเป็นประจำ ช่วยให้กระดูกและร่างกายแข็งแรงขึ้น ผู้คนใช้ชีวิตอย่างกระตือรือร้น ครัวเรือนของชาวโอกินาวะมักจะมีเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้น้อย ชาวบ้านมักจะนั่งรับประทานอาหารบนเสื่อตาตามิ ผู้สูงอายุจึงมีโอกาสได้ลุกนั่ง ขึ้นลง เคลื่อนไหวร่างกายอยู่ตลอด ชาวเกาะมีทัศนคติที่เคร่งครัด ทำให้พวกเขามีความใจกว้าง สุภาพอ่อนโยน และมีความสุขที่เรียบง่าย

5. นิคอยา ประเทศคอสตาริก้า 

เมืองที่อยู่บนคาบสมุทร 80 ไมล์ ทางใต้ของชายแดนนิการากัวนี้ เป็นชุมชนของกลุ่มคนละติน ที่ใช้ชีวิตด้วยมุมมองเฉพาะตัวที่เรียกว่า Plan de Vida แปลว่า เหตุผลที่มีชีวิตอยู่ เป็นแนวคิดในกลุ่มผู้สูงอายุ ที่ทำให้พวกเขามีความกระตือรือร้นอยู่เสมอ อีกประการหนึ่งคือการมุ่งเน้นไปที่ครอบครัว และความสามารถในการรับฟังและหัวเราะ ชาวนิคอยันอายุ 100 ปี มักจะไปเยี่ยมเพื่อนบ้าน และอาศัยอยู่กับครอบครัว ลูกๆหลานๆ ที่ให้การดูแล พวกเขาดื่มน้ำที่มีคุณภาพ ซึ่งมีปริมาณแคลเซียมที่สูง ช่วยในเรื่องกระดูก และป้องกันโรคหัวใจ นอกจากนี้ ยังรับประทานอาหารเย็นในปริมาณที่น้อย และบริโภคผักตระกูลสามพี่น้อง ซึ่งประกอบไปด้วย พืชตระกูลฟักแตง ข้าวโพด และถั่ว

ชาวนิคอยันมักจะมีความสุขกับการทำงานตลอดชีวิต พวกเขาพบความสุขในการทำงานบ้าน ในแต่ละวัน และมักใช้เวลานอกบ้านในการรับแสงแดด เพื่อได้รับวิตามินดี ที่มีส่วนช่วยในการรักษากระดูก และร่างกายให้แข็งแรง รากฐานของพวกเขาคือประเพณีพื้นเมือง ที่ทำให้พวกเขาปราศจากความเครียด อาหารแบบดั้งเดิมของพวกเขาคือ ข้าวโพดและถั่ว ซึ่งเป็นส่วนประกอบทางโภชนาการที่ดีที่สุด สำหรับการมีอายุยืนยาวเท่าที่โลกเคยรู้จัก


จากสถานที่ทั้ง 5 แห่งที่ถูกระบุไว้ในรายชื่อแถบพื้นที่ Blue Zone แล้ว คงสังเกตได้ว่า เคล็ดลับการมีอายุยืนยาวของคนในแต่ละพื้นที่นั้น ก็คงหนีไม่พ้นปัจจัยหลักๆอยู่เพียงไม่กี่อย่าง อย่างที่ทุกคนน่าจะเข้าใจกันดี หากต้องการนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันของเราเอง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่หักโหมจนเกินไป การมีเป้าหมายในชีวิต ซึ่งช่วยให้เรารับมือกับความสำเร็จ และความล้มเหลวทางจิตใจ การจัดการกับความเครียด บริโภคอาหารในปริมาณที่เหมาะสม รับประทานอาหารที่ทำจากพืช ผัก ผลไม้ ธัญพืช เป็นหลัก การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่เหมาะสม การมีส่วนร่วมกับกลุ่มทางด้านศรัทธาหรือศาสนาอย่างเหมาะสม รวมถึงความสัมพันธ์ทางสังคมและครอบครัวที่ดี ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่อยู่รอบๆตัวเรา หากเราลองปรับให้ดีขึ้น อย่างน้อยที่สุด สุขภาพร่างกายของเราก็จะดีขึ้นตามลำดับ การได้ใช้ชีวิตอยู่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพ ก็จะเป็นของขวัญที่ได้กลับคืนมาในอนาคต 



ขอบคุณข้อมูลจาก 

https://www.bluezones.com/

https://www.creativethailand.org/article-read?article_id=33222

https://www.xtend-life.co.th/

https://www.iskycenter.com/knowledge/2973/blue-zone-secret/

ขอบคุณเจ้าของวิดีโอจาก YouTube ลิขสิทธิ์ต่างๆเป็นของเจ้าของวิดีโอ



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เชียงตุงและเมืองลา 2014

บ่อแก้วในวันฝนพรำ

My Family to Northeast Thailand in 1999